ตั้งใจว่าเอาเทคนิคที่พบและได้รับการบอกเล่ามาจากพวกพี่ๆ ที่ซื้อขายต้นไม้กัน แล้ว
สำหรับอย่างแรกกับสิ่งที่ผ่านมา
1. น้ำ่ท่วมจะเก็บฟิโลอย่างไรดี อันนี้ของแบ่งออกเป็นสองกรณีน่ะครับ กรณีแรกเลี้ยงไว้ในกระถาง กรณีที่สองเลี้ยงลงดิน สำหรับกรณีแรกน่ะครับ ถ้ามีสถานที่มากพอก็ยกหนีน้ำเลย แต่ถ้าที่จำกัดทำอย่างนี้ครับ จับดึงออกจากกระถางแล้วหาที่พ้นน้ำแล้วพาดไว้ครับ รดน้ำทุกวัน อันนี้ไม่ตายครับ สำหรับกรณีที่สอง ขุดให้ลึกที่สุดแล้วตัดเอาลำต้นเค้าขึ้นมาครับ หาที่แห้งๆ พาดเอาไว้แล้วคอยฉีดน้ำสักหน่อย พวกนี้ถ้า ลำต้นไม่เน่า ไม่ค่อยจะมีปัญหาครับ แต่ของผมเองเอาขึ้นมาช้า ลำต้นเน่าไปเหลือนิดเดียวเอง ส่วนพวกที่เกาะต้นไม้แล้ว ถ้ายังอยากจะเลี้ยง ฟันโคนฟิโลแล้วดึงออกมาเก็บครับ เพราะฟิโลแช่น้ำ ลำต้นเค้าจะเน่า (กรณีน้ำท่วมนานน่ะครับ)
2. เลี้ยงเฟิร์นแล้วทำไมมันแตกหน่อ (ไม่รู้จะเรียกอะไร ) ช้าจังแถมยอดใหม่ก็ไม่ออก กรณีนี้น่ะครับ เป็นเพราะสภาพการเลี้ยงดูครับ เรื่องของแสงเลยครับ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเฟิร์นเป็นไม้ร่ม หรือไม้แดด 50 แต่ในความเป็นจริงแล้ว เฟิร์นบางตัวก็อยู่้แดด 100 ได้ แถมอยู่ทั้งวันยังได้ แต่ทั้งนี้ผู้เลี้ยงเองก็ต้องมั่นใจด้วยว่าจะรดน้ำทุกวัน ไม่งั้นเลี้ยงแค่แดด 60 ก็พอ อ๋อสำหรับบางท่านที่หนีน้ำแล้วกลับมาเฟิร์นแห้ง อย่าพึ่งทิ้งครับ ถ้าเป็นพวกสไปนาง บริพัตร บรูไน ถ้าไม่ได้อยู่แดด 100 ให้รดน้ำชุ่มๆ ไปเรื่อยๆ ครับ เดียวเค้าจะแตกใหม่ครับ ในความเห็นผมคิดว่าเฟิร์นคงจะพักตัวเมื่อเจอกับสภาวะแห้งแล้วสุดๆ น่ะครับ ที่บอกอย่างนี้ได้เพราะว่า สไบนางที่ร้านผม แขวนไม่ได้รดน้ำ เดือนกับอีก เกือบสองอาทิตย์ เนี้ยพึ่งเอากลับบ้าน ตอนแรกที่เจอกัน ใบเค้าจะเ้ขียวซีด ๆ (เจ้านี่แขวนไว้ในร้าน มีหลังคา และกระเบื้องหลังคาแบบใส 2 แนวครับ) เห็นกันก็รู้เลยโดยความรู้สึกว่าเจ้านี่ไม่ตายนี่หว่า เอากลับมาบ้านแล้วรดน้ำตอนนี้ใบเขียวแล้ว ส่วนเรื่องหน่อยกับยอดใหม่คงต้องให้เวลาเค้าซักพักครับ ส่วนบรูไน กับบริพัตรก็เหมือนกันครับ
3.หม้อข้าวหม้อแกงลิงล่ะ หนีน้ำยังไง เจ้านี้เองก็ดึงต้นออกจากกระถางได้เหมือนกัน แต่พวกไม้ไฮแลนด์ เนี้ย อาจจะต้องทำใจ เป็นไปได้แนะนำให้ทำกับพวกโลว์แลนด์ ยกเว้นแอม เพราะเจ้านี้ระบบรากแปลกๆ วุ่นวายมากไม่ได้ มาว่ากันต่อเจ้านี่ดึงขึ้นมาแล้ว หากระถางใหญ่ๆ จับหลายๆ ต้นมาใ่ส่รวมกัน ทำเหมือนปลูก แล้วรดน้ำทุกวันไม่ตายครับ สำหรับกรณีฉุกเฉิน ดึงขึ้นมาแล้วต้นเหี่ยวทำไงดี จับตัดใบให้หมดครับ ถามว่าทำไมหรือครับ ก็เพราะว่ากราตัดใบเพื่อให้ต้นไม้ลดการคายน้ำครับ เมื่อเค้าคายน้ำน้อยก็ลดโอกาสตายครับ
4.เลี้ยงหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้องใช้เครื่องปลูกพวกเปลือกสนอย่าเดียวเลยหรอ สำหรับหรับผมพวกที่เป็นไฮแลนด์หรือพวกลูกผสม หรือจะเป็นอินเทมิเดีย ผมใช้นี่ครับ ขุยมะพร้าวกับทรายผสมกับครึ่งๆ เลยครับ แต่ก็แล้วแต่ชนิดด้วย เพราะถ้าใส่ขุยเยอะ มันจะอมน้ำคัรบ ส่วนทรายเยอะ มันแห้งไปครับ สูตรเครื่องปลูกนี้ผมใช้กับหม้อข้าวหม้อแกงลิงหลายตัวครับ หรือแม้แต่ซาราซิเนีย (เจ้ากรวยกินแมลง) ผลที่ได้ก็งามดีครับ ส่วนใครเอาไปใช้แล้วบอกไม่เห็นไม้จะงาม อันนี้แนะนำให้ลองดูราก ว่ารากเค้าเดินดีไหม เพราะไม้ถ้าลงเครื่องปลูกแล้ว เดือนกว่ารากน้อย แสดงว่าเค้าไม่ชอบเครื่องปลูกอย่างนี้ครับ ลองปรับๆ ดูครับ เพราะเลี้ยงไม้ไม่มีสูตรตายตัวครับ
5.เลี้ยงเฟิร์นต้องยุ่งยากเรื่องเครื่องปลูกด้วยหรอ หลายคนที่เลี้่ยงเฟิร์นมาคงได้ฟังตอนซื้อเฟิร์นบ้างหรือได้อ่านมาบ้างว่าเลี้ยงเฟิร์นต้องดูค่า Ph ของเครื่องปลูก เครื่องปลูกต้องใช้อย่างนั้นบ้างอย่างนี้บ้าง แต่สำหรับผมแล้ว ไม่เคยสนใจเจ้าพวกนี้เลย เครื่องปลูกกาบมะพร้าวซะส่วนใหญ่ จะมีใ้ช้ขุยทรายก็จะเป็นพวกกนกนารีที่เป็นพวกกนกบลู กนกญี่ปุ่น กนกฟิลิิปินส์ เพราะเจ้าพวกนี้เลี้ยงกาบมะพร้าวแล้วมีแต่ลดลง ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าเจ้าพวกนี้ชอบความชื้นเยอะๆ แต่ไม่จำเป็นต้องขนาดน้ำ แค่ทำให้เครื่องปลูกเย็นเค้าก็โอเคแล้ว
6.การใช้กาบมะพร้าวเป็นเครื่องปลูกต้องแช่น้ำถึงสองอาทิตย์หรือ อย่างน้อยสามวันเลยหรือ อันนี้สำหรับผมเมื่อก่อนก็ทำ ๆ จนโดนแม่ด่าเพราะน้ำแช่กาบมะพร้าวจะเป็นอะไรที่สีแดงติดดีเหลือเกินไม่ว่าจะไหลไปทางไหน ผมเองก็แช่ทิ้งเลย แต่ก็จะมีกลิ่นอีก จนปัจจุบัน ไม่เคยแช่ครับจับใส่กระถางเลย จริงอยู่กาบมะพร้าวใหม่จะมีสารแทนนิน (เค้าว่ามา) ช่วงที่รดน้ำเดือนแรกจะน่ารำคาญมากเพราะน้ำจากกระถางจะแดง แต่เท่าที่สังเกตุก็ไม่มีปัญหากับไม้แต่อย่างใด (เค้าว่าสารแทนนิน จะยับยั้งการสร้างรากของพืช อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน) แต่ถ้าเป็นพวกเฟิร์น หมดน้ำแดงๆ ไปเฟิร์นรากก็จะเดินดีแล้ว (อันนี้ใช้เป็นตัวบอกสำหรับผมเก็บไม้ไปแขวนขาย) แต่เครื่องปลูกที่แช่ ก็ไม่ได้ให้ผลว่าเฟิร์นรากจะเดินเร็วอะไรน่ะครับ ผมว่ามันก็มีเวลาเท่าๆ กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น